This is a bilingual snapshot page saved by the user at 2025-3-16 18:31 for https://copilot.microsoft.com/chats/bzvCgJZbsGjh68VoJuTZv, provided with bilingual support by Immersive Translate. Learn how to save?
วันนี้

คุณพูดว่า

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีไฟร์วอลล์เพื่อบล็อกการเชื่อมต่อขาออก หมายถึงอะไร

Copilot พูดว่า

การตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีไฟร์วอลล์เพื่อบล็อกการเชื่อมต่อขาออก หมายถึงการตั้งค่าไฟร์วอลล์ให้ป้องกันโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันบางตัวบนคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ให้ส่งข้อมูลออกไปยังอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ไฟร์วอลล์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยควบคุมการรับส่งข้อมูลเครือข่ายทั้งขาเข้าและขาออก โดยการบล็อกการเชื่อมต่อขาออก คุณสามารถป้องกันโปรแกรมที่อาจเป็นอันตรายหรือไม่ได้รับอนุญาตไม่ให้ส่งข้อมูลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบของคุณ

ตัวอย่างเช่น:

  1. คุณสามารถตั้งค่าไฟร์วอลล์ Windows Defender เพื่อสร้าง "กฎขาออก" (Outbound Rule) ที่บล็อกโปรแกรมเฉพาะไม่ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต.

  2. การตั้งค่าดังกล่าวสามารถทำได้ผ่านเมนู "การตั้งค่าขั้นสูง" ในไฟร์วอลล์ Windows.

หากคุณต้องการคำแนะนำแบบละเอียดเกี่ยวกับการตั้งค่าไฟร์วอลล์ ฉันสามารถช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้!

คุณพูดว่า

ต้องการตั้งสำหรับไฟล์โปรแกรมนี้ "D:\D_Programs File\Net Monitor for Employees Pro\nmep_console.exe" ช่วยหน่อยฉันทำไม่เป็น ทำผ่าน command ทั้งหมดจะดีมาก ปกติฉันใช้ powershell

Copilot พูดว่า

แน่นอน ฉันจะช่วยคุณตั้งค่าไฟร์วอลล์เพื่อบล็อกการเชื่อมต่อขาออกของโปรแกรม nmep_console.exe ผ่าน PowerShell โดยตรง ซึ่งต้องใช้คำสั่ง New-NetFirewallRule สำหรับการสร้างกฎไฟร์วอลล์ใหม่

ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:

  1. เปิด PowerShell ด้วยสิทธิ์ Administrator (คลิกขวาที่ไอคอน PowerShell และเลือก Run as Administrator).

  2. ใช้คำสั่งนี้เพื่อสร้างกฎไฟร์วอลล์:

    powershell
    New-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound" `
    -Direction Outbound `
    -Program "D:\D_Programs  File\Net Monitor for Employees Pro\nmep_console.exe" `
    -Action Block `
    -Profile Any
    

    คำอธิบายของแต่ละพารามิเตอร์:

    • -DisplayName: ชื่อกฎไฟร์วอลล์ที่คุณสร้าง เพื่อให้คุณจำได้ง่าย.

    • -Direction: ระบุทิศทางการเชื่อมต่อ (Outbound สำหรับบล็อกการเชื่อมต่อออก).

    • -Program: ระบุเส้นทางไปยังไฟล์โปรแกรมที่ต้องการบล็อก.

    • -Action: ระบุการกระทำ (Block เพื่อบล็อกการเชื่อมต่อ).

    • -Profile: ระบุว่าให้กฎนี้มีผลในทุกโปรไฟล์เครือข่าย (Any หมายถึง ทุกประเภท เช่น Private, Public, Domain).

  3. ตรวจสอบว่ากฎถูกสร้างขึ้นแล้วโดยใช้คำสั่ง:

    powershell
    Get-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound"
    
  4. หากต้องการลบกฎไฟร์วอลล์นี้ในอนาคต ให้ใช้คำสั่ง:

    powershell
    Remove-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound"
    

ลองทำตามดูนะ! ถ้าติดปัญหาหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม บอกฉันได้เลย ฉันยินดีช่วยเสมอครับ 😊

คุณพูดว่า

PS C:\Users\acer> New-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound" ` >> -Direction Outbound ` >> -Program "D:\D_Programs File\Net Monitor for Employees Pro\nmep_console.exe" ` >> -Action Block ` >> -Profile Any Name : {2fd55eeb-3519-410d-ab6b-da51f73a9d04 } DisplayName : Block NMEP Console Outbound Description : DisplayGroup : Group : Enabled : True Profile : Any Platform : {} Direction : Outbound Action : Block EdgeTraversalPolicy : Block LooseSourceMapping : False LocalOnlyMapping : False Owner : PrimaryStatus : OK Status : The rule was parsed successfully from the store. (65536) EnforcementStatus : NotApplicable PolicyStoreSource : PersistentStore PolicyStoreSourceType : Local RemoteDynamicKeywordAddresses : {} PolicyAppId : PackageFamilyName : PS C:\Users\acer> Get-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound" Name : {2fd55eeb-3519-410d-ab6b-da51f73a9d04 } DisplayName : Block NMEP Console Outbound Description : DisplayGroup : Group : Enabled : True Profile : Any Platform : {} Direction : Outbound Action : Block EdgeTraversalPolicy : Block LooseSourceMapping : False LocalOnlyMapping : False Owner : PrimaryStatus : OK Status : The rule was parsed successfully from the store. (65536) EnforcementStatus : NotApplicable PolicyStoreSource : PersistentStore PolicyStoreSourceType : Local RemoteDynamicKeywordAddresses : {} PolicyAppId : PackageFamilyName : PS C:\Users\acer>

Copilot พูดว่า

ดูเหมือนว่าคุณได้ตั้งค่ากฎไฟร์วอลล์สำเร็จแล้ว! 😊 จากผลลัพธ์ที่แสดง กฎมีสถานะ Enabled (True) และระบุการกระทำเป็น Block สำหรับการเชื่อมต่อขาออก (Outbound) ของโปรแกรม nmep_console.exe ซึ่งตรงกับที่คุณต้องการ

ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบเพิ่มเติมหรือต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม บอกมาได้เลยนะครับ ฉันยินดีช่วยเหลือเสมอ! 🚀

คุณพูดว่า

ผิดไฟล์ ต้องสร้างสำหรับไฟล์นี้ "D:\D_Programs File\Net Monitor for Employees Pro\bin\nmep_console.exe"

Copilot พูดว่า

ไม่เป็นไรครับ! เราสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการลบกฎเดิมและสร้างกฎใหม่สำหรับไฟล์ที่ถูกต้อง ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้เลย:

  1. ลบกฎไฟร์วอลล์เดิม: ใช้คำสั่งนี้เพื่อลบกฎไฟร์วอลล์ที่คุณสร้างไว้ก่อนหน้านี้:

    powershell
    Remove-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound"
    
  2. สร้างกฎใหม่สำหรับไฟล์ที่ถูกต้อง: ใช้คำสั่งนี้เพื่อตั้งค่ากฎไฟร์วอลล์สำหรับไฟล์ nmep_console.exe ที่อยู่ในโฟลเดอร์ bin:

    powershell
    New-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound" `
    -Direction Outbound `
    -Program "D:\D_Programs  File\Net Monitor for Employees Pro\bin\nmep_console.exe" `
    -Action Block `
    -Profile Any
    
  3. ตรวจสอบกฎใหม่: เพื่อยืนยันว่ากฎใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างถูกต้อง:

    powershell
    Get-NetFirewallRule -DisplayName "Block NMEP Console Outbound"
    

ทำตามนี้ได้เลยครับ! หากยังมีปัญหาหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ฉันพร้อมช่วยเสมอครับ 😊

คุณพูดว่า

ความช่วยเหลือในการแสดงผล ip2whois -h กําหนดค่าคีย์ API ip2whois config <API KEY> ค้นหา WHOIS สําหรับโดเมนเฉพาะ (JSON) ip2whois locaproxy.com สืบค้น WHOIS สําหรับโดเมนเฉพาะ (พิมพ์สวย) ip2whois -o pretty locaproxy.com สืบค้น WHOIS สําหรับโดเมนที่เฉพาะเจาะจงและแสดงเฉพาะช่องผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง ip2whois -f domain,domain_id,status,create_date,registrar.name locaproxy.com แปลงชื่อโดเมนปกติเป็น Punycode ip2whois normal2puny <DOMAIN> แปลง Punycode เป็นชื่อโดเมนปกติ ip2whois puny2normal <DOMAIN> API ของฉันคือ 329BA11B2554780A825F48C82E7A5F2F

Copilot พูดว่า

ดูเหมือนว่าคุณกำลังเตรียมใช้งานเครื่องมือ ip2whois เพื่อจัดการและสืบค้นข้อมูล WHOIS สำหรับโดเมนต่าง ๆ! ต่อไปนี้คือคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานคำสั่งที่คุณกล่าวมา พร้อมตัวอย่างการใช้คีย์ API ของคุณ:

1. กำหนดค่าคีย์ API

ใช้คำสั่งนี้เพื่อกำหนดคีย์ API ของคุณ (แทน <API KEY> ด้วยคีย์ที่ให้มา):

bash
ip2whois config 329BA11B2554780A825F48C82E7A5F2F

2. ค้นหา WHOIS สำหรับโดเมนเฉพาะในรูปแบบ JSON

หากคุณต้องการดึงข้อมูล WHOIS ของโดเมน locaproxy.com:

bash
ip2whois locaproxy.com

3. สืบค้น WHOIS (พิมพ์สวย)

หากต้องการผลลัพธ์ที่มีรูปแบบอ่านง่าย:

bash
ip2whois -o pretty locaproxy.com

4. แสดงเฉพาะข้อมูลที่กำหนดเอง

ดึงข้อมูลเฉพาะบางช่อง เช่น domain, domain_id, status, create_date และ registrar.name:

bash
ip2whois -f domain,domain_id,status,create_date,registrar.name locaproxy.com

5. แปลงชื่อโดเมนเป็น Punycode

หากต้องการแปลงชื่อโดเมนเป็น Punycode (เหมาะสำหรับโดเมนที่มีตัวอักษรพิเศษ):

bash
ip2whois normal2puny <DOMAIN>

6. แปลง Punycode กลับเป็นชื่อโดเมนปกติ

หากต้องการแปลง Punycode กลับเป็นชื่อโดเมนที่อ่านได้ง่าย:

bash
ip2whois puny2normal <DOMAIN>

นี่เป็นคำแนะนำเบื้องต้น! หากคุณต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมหรือพบปัญหาใด ๆ ในการใช้งาน บอกฉันได้เลย ฉันพร้อมช่วยเสมอครับ 😊